การเสียชีวิตของพระเจ้าจอห์นที่สองแห่งฝรั่งเศส การปฏิวัติและความไม่สงบในราชอาณาจักร

blog 2024-12-20 0Browse 0
การเสียชีวิตของพระเจ้าจอห์นที่สองแห่งฝรั่งเศส การปฏิวัติและความไม่สงบในราชอาณาจักร

ปี ค.ศ. 1364 เป็นปีที่น่าจดจำสำหรับประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส ด้วยการจากไปของพระเจ้าจอห์นที่สองซึ่งครองราชย์เป็นเวลา 50 ปี ท่ามกลางความโศกเศร้าของประชาชน การสิ้นพระชนม์ของพระองค์กลับกลายเป็นตัวเร่งให้เกิดวิกฤตการณ์ทางการเมืองและสังคมอย่างรุนแรง

สาเหตุหลักที่ทำให้การจากไปของพระเจ้าจอห์นที่สองสร้างความวุ่นวาย stems from the fact ว่าพระองค์ไม่มีทายาทโดยตรง พระมเหสีของพระองค์ มารีแห่งลักเซมเบิร์ก ประสูติแต่บุตรชายเพียงคนเดียวคือพระเจ้าชาร์ลที่ห้าเมื่อปี ค.ศ. 1338 แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองก็ไม่ได้ราบรื่น

ก่อนที่พระเจ้าจอห์นจะสิ้นพระชนม์ การต่อสู้แย่งชิงบัลลังก์ฝรั่งเศสก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ระหว่างผู้สนับสนุนของพระเจ้าชาร์ลที่ห้า (ซึ่งขณะนั้นยังทรงเป็นวัยรุ่น) และกลุ่มขุนนางที่มีอำนาจในราชสำนัก การต่อสู้ทางอำนาจนี้แพร่กระจายไปทั่วประเทศฝรั่งเศส

เมื่อพระเจ้าจอห์นที่สองเสด็จสวรรคต บัลลังก์ก็ว่างเปล่า ทำให้เกิดความไม่สงบอย่างรุนแรง ขุนนางต่าง ๆ ต่างยื่นมือเข้ามาอ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์ กลุ่มหนึ่งสนับสนุนพระเจ้าชาร์ลที่ห้า ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งต้องการมอบบัลลังก์ให้แก่ฟิลิป ดยุกแห่งเบอร์กันดี

ความไม่สงบนี้ได้ทำให้เกิดการสงครามกลางเมืองครั้งใหญ่ในฝรั่งเศส การต่อสู้ระหว่างฝ่ายต่างๆ ทำให้ประเทศฝรั่งเศสอ่อนแอลงอย่างมาก และส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

ฝ่าย ผู้นำ เป้าหมาย
ฝ่ายสนับสนุนพระเจ้าชาร์ลที่ห้า พระมเหสี มารีแห่งลักเซมเบิร์ก การสืบทอดบัลลังก์โดยพระเจ้าชาร์ลที่ห้า
ฝ่ายสนับสนุนฟิลิป ดยุกแห่งเบอร์กันดี ฟิลิป ดยุกแห่งเบอร์กันดี การขึ้นครองราชย์ของตนเอง

ความวุ่นวายจากการเสียชีวิตของพระเจ้าจอห์นที่สองส่งผลกระทบต่อฝรั่งเศสอย่างล profound. นอกเหนือจากสงครามกลางเมืองแล้ว ประเทศยังต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ การขาดแคลนอาหาร และความไม่มั่นคงทางสังคม

ในที่สุด พระเจ้าชาร์ลที่ห้าก็สามารถขึ้นครองบัลลังก์ได้ แต่การต่อสู้เพื่ออำนาจยังคงดำเนินต่อไปหลายปี เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบการเมืองฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 14

การเสียชีวิตของพระเจ้าจอห์นที่สองเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส เป็นตัวอย่างของความไม่แน่นอนทางการเมืองและความโกลาหลที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไม่มีผู้ที่จะสืบทอดบัลลังก์

TAGS